วันนี้ (9 ก.ย.65) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายสุริยพล นุชอนงค์
รองอธิบดีกรมชลประทาน นายชุติมันต์ สกุลพราหมณ์
ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 11 นายยงยส
เนียมทรัพย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 11 นายธีรภัทร สามไพบูลย์
ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชนุชิต
พร้อมหัวหน้าฝ่าย และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามการระบายน้ำ
เพื่อช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมขังในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดปทุมธานี
บริเวณสถานีสูบน้ำสมบูรณ์ จังหวัดนครนายก และประตูระบายน้ำบางขนาก
จังหวัดฉะเชิงเทรา
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า
จากสถานการณ์ฝนตกหนักสะสมในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและจังหวัดปทุมธานี
กรมชลประทาน ได้ใช้คลองแนวขวางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ
คลองหกวาสายล่าง เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำนครนายก ผ่านสถานีสูบน้ำสมบูรณ์
จังหวัดนครนายก ที่ได้ติดตั้ง
เครื่องสูบน้ำไว้ 6 เครื่อง
สามารถระบายน้ำได้ประมาณวันละ 1.3 ล้าน ลบ.ม. ส่วนที่คลองแสนแสบ
(คลองบางขนาก) ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกง ผ่านประตูระบายน้ำบางขนาก
จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้แล้ว 20 เครื่อง
ระบายน้ำรวมกันประมาณวันละ 4.65 ล้าน ลบ.ม.และที่คลองประเวศน์บุรีรมย์
ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกง ผ่านประตูระบายน้ำกลางคลองประเวศน์
จังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนระบายออกสู่ทะเลอ่าวไทยอย่างเต็มศักยภาพ
ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างสุดกำลัง
นอกจากนี้ ยังใช้คลองแนวตั้งด้านฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา
ไม่ว่าจะเป็นคลอง 13 และคลองพระองค์ไชยานุชิต
แบ่งรับน้ำจากทางตอนบนของกรุงเทพมหานคร ก่อนจะใช้สถานีสูบน้ำ (สน.)
ที่ตั้งอยู่ริมคลองชายทะเลอาทิ สน.ชลหารพิจิตร สน.นางหงษ์ สน.เจริญราษฎร์
สน.บางปลา และ สน.สุวรรณภูมิ เป็นต้น เร่งระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทย
ซึ่งสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำที่ตั้งอยู่ตามแนวคลองชายทะเล
มีศักยภาพระบายน้ำได้รวมกันกว่า 42 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน