ดร.ทวีศักดิ์
ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยนายธีระพล ตั๊งสมบุญ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา นายปกรณ์ สุตสุนทร
ผู้เชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษาอุทกวิทยา และ นายธเนศร์ สมบูรณ์
ผู้เชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษาอุทกวิทยา
ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา
ตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 2563 โดยมีนายวรวิทย์ บุณยเนตร
ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่11 นายโบว์แดง ทาแก้ว
ผู้อำนวยการโครงการชลประทานรังสิตใต้ ให้การต้อนรับพร้อมบรรยายสรุปการดำเนินงาน ณ
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้
ทั้งนี้
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ ได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำช่วงฤดูฝนปี
63 ด้วยการพร่องน้ำในคลองรังสิตให้อยู่ในระดับ 0.7-0.8 เมตร
พร้อมทำการสูบน้ำออกบริเวณประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยมีศักยภาพในการระบายน้ำได้ประมาณ 7 ล้าน
ลบ.ม ต่อวัน เพื่อเตรียมพร้อมรับปริมาณน้ำในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ยังได้เตรียมพร้อมด้านเครื่องจักรเครื่องมืออาทิ
เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ไว้ประจำจุดเสี่ยงภัยต่างๆ แล้ว ในการนี้
รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมคณะ
ยังได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของประตูระบายน้ำคลอง13
และความก้าวหน้าในการดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองหกวา
จากนั้นเดินทางไปติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างปรับปรุงประตูระบายน้ำบึงฝรั่ง
ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายในการผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านทางคลองรังสิตมาช่วยสนับสนุนน้ำดิบ
เพื่อการผลิตน้ำประปาในเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
จากนั้นในช่วงบ่าย รองอธิบดีฯ พร้อมคณะ
เดินทางไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน
พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารสูบน้ำชลหารพิจิตร3 และสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ
โดยมีนายชัยพร พรหมสุวรรณ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร
และนายธานินทร์ เนื่องทศเทศ
ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต ให้การต้อนรับ ทั้งนี้
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร
ได้กำหนดจุดเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยไว้ทั้งหมด 8 จุด
พร้อมกำหนดระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังที่ระดับเก็บกัก หากมีปริมาณน้ำเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดจะทำการสูบระบายออก
เพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ยังได้เตรียมพร้อมด้านเครื่องจักร
เครื่องมือประจำจุดเสี่ยง
รวมทั้งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำวัชพืชต่างๆอยู่สม่ำเสมอ
พร้อมทั้งตรวจสอบอาคารชลประทานต่างๆให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ
|