วันที่ 7 กรกฎาคม 2561 ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา กรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการในช่วงฤดูน้ำหลากในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนล่าง ในเขตรับผิดชอบของสำนักงานชลประทานที่ 11 พร้อมทั้งฟังบรรยายสรุปในภาพรวม โดยมี นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา นายชูชาติ รักจิตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง นายธีระพล ตั๊งสมบุญ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 11 นายชัชชม ชมประดิษฐ์ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา นายสมัย ธรรมสัตย์ ผู้อำนวยการส่วนแผนงาน นายวรชัย สุขผลธรรม ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม นายพฤทธิพงศ์ ทัศน์อัญชุลีกุล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรงรักษารังสิตใต้ นายธานินทร์ เนื่องทศเทศ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต นายชัยพร พรหมสุวรรณ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร นายสุรพล อนุสรหิรัญการ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ พร้อมด้วยหัวหน้าฝ่าย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ และการบรรยาย ณ ประตูระบายน้ำปลายคลองระพีพัฒน์ (ปตร.พระธรรมราชา) โครงการระบายน้ำพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
โดยประตูระบายน้ำปลายคลองระพีพัฒน์ เป็นโครงการปรับปรุงประตูระบายน้ำพระธรรมราชา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งระบายน้ำพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา และป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในช่วงฤดูน้ำหลากของประชาชนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนบริหารจัดการในฤดูน้ำหล่กของสำนักงานชลประทานที่ 11
หลังจากนั้น ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา และคณะ
ลงพื้นที่บริเวณไซฟอนคลอง 13 และประตูระบายน้ำคลองหกวา
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานีซึ่งเป็นสถานีสูบน้ำจาก
คลองหกวาสายล่างและน้ำจากทุ่งลำลูกกาสายไหม เขตหนองจอก ระบายออกไปยังคลอง 14 และคลอง 15 เข้าสู่แม่น้ำนครนายกที่ อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี เพื่อสูบระบายลงทะเลที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ต่อไปและสถานีสูบน้ำ-ประตูระบายน้ำหนองจอก โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยเครื่องสูบน้ำขนาด 3 ลบ.ม/วินาที จำนวน 20 เครื่อง บานระบายจำนวน 4 ช่อง สามารถระบายน้ำได้สูงสุด 60 ลบ.ม./วินาที